โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ตั้งอยู่บนบริเวณที่ราบฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา
ตัวตึกออกแบบเป็นรูปตัววาย
(Y) เพื่อแขกจะได้เห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำจากห้องพักทุกห้อง
โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม
พ.ศ. 2526
โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน เป็นโรงแรมที่อยู่ภายใต้การร่วมลงทุนของเอกชน
และบริษัทต่างๆ ภายใต้ชื่อ
“บริษัท โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย)
จำกัด (มหาชน)”
โดยมีผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนอัตราส่วนดังนี้:
บริษัท
สตาร์วูดโฮเต็ล (ประเทศไทย) จำกัด 44%
บรษัท มาบุญครองพร๊อพเพอตี้
จำกัด (มหาชน) 29.74%
บริษัท
การบินไทย จำกัด 24%
อื่นๆ
2.26%
แต่เดิมใช้ชื่อว่า โรงแรมรอยัลออคิด
โดยมีบริษัท แมนดาริน อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ล จำกัด เป็นผู้บริหารงาน (ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น
บริษัทแมนดารินโอเรียนเต็ล จำกัด) แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงบางประการ
บริษัท อิตัล-ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ล จำกัด (ในขณะนั้น) จึงมีมติให้เลิกสัญญา และว่าจ้างให้ บริษัท
ไอทีที เชอราตัน คอร์ปอเรชั่น จำกัด จากประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ารับดำเนินการบริหารแทน ตั้งแต่วันที่
1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 เป็นต้นมา
เพื่อเป็นการยกระดับการบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าระดับผู้บริหารและบุคคลสำคัญระดับประเทศ โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตันจึงได้ดำเนินการก่อตั้ง “เชอราตันทาวเวอร์ส” ซึ่งเป็นห้องพักพิเศษตั้งแต่ชั้นที่
25 – ชั้นที่ 28 โดยเน้นถึงการให้บริการแบบเป็นส่วนตัวเป็นหลักสำคัญ นับเป็นแห่งแรกในประเทศไทยเมื่อปี
พ.ศ. 2529
นอกจากนี้ยังจัดให้มีทาวเวอร์สเลาจน์ ตั้งอยู่บริเวณชั้น
27 เพื่อบริการผู้ที่เข้าพักในชั้นทาวเวอร์สและแขกรับเชิญ ในโอกาสเลี้ยงรับรองพบปะสังสรรค์
หรือเจรจาธุรกิจในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง ซึ่งผู้เข้าพักสามารถใช้เป็นมุมผ่อนคลาย พร้อมบริการอาหารเช้า
ค็อกเทลของว่างมื้อค่ำ และเครื่องดื่มนานาชนิด ในระหว่างชั่วโมงหรรษาทุกวัน
แหล่งธุรกิจส่วนใหญ่ของโรงแรมฯ ได้มาจากนักเดินทางทั่วโลก
โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว กลุ่มอินเซนทีฟ กลุ่มผู้เข้าร่วมการจัดประชุมระดับนานาชาติ
และนักธุรกิจจากหลายสาขาอาชีพ และในด้านการตลาดของโรงแรมฯโดยทั่วไป
ประวัติส่วนตัว
1.ชื่อ ด.ญ.เมธาวี สาแก้ว
2.อายุ 15
3.ชื่อเล่น โฟล์ค
4.ครอบครัวมีอยู่ 4 คน พ่อ แม่ หนู น้อง
5.พ่อทำงาน ค้าขาย
แม่ทำงานแม่บ้าน
6.ที่อยู่ 82/217 หมู่ 11 เอกชัย 10 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร 10150
7.สีที่ชอบ สีขาว-ดำ
8.กีฬาที่ชอบ ว่ายน้ำ
9.ชอบกิน ข้าวผัดปู
10.วิชาที่ชอบ พละศึกษา
11.อนาคตอยากเป็น เจ้าขอโรงเเรม
12.งานอดิเรก ฟังเพลง
13.สิ่งที่อยากทำให้พ่อแม่ อยากให้พ่อแม่สุขสบาย
14.คติประจำใจ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ประวัติเฟสบุ๊ค
Mark Zuckerberg
Facebook ก่อตั้งโดย Mark Zuckerberg พร้อมกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่ Harvard คือ Dustin Moskovitz, Eduardo Saverin, and Chris Hughes ความคิดที่จะทำ Facebook มาจาก เมื่อตอน Mark เรียนมัธยมอยู่ ซึ่ง ตอนนั้นที่โรงเรียนมีการถ่ายรูปนักเรียนและอาจารย์เก็บเอาไว้ เรียกว่า "facebook" (หรือหนังสือหน้า นั่นเอง)
Facemash
แต่ก่อนที่จะเป็น Facebook ในปัจจุบัน Mark สร้าง Facemash ขึ้นมาก่อน Facemash เกิดเมื่อปี 2003 ตอนนั้น Mark เรียนอยู่ปี 2 ที่ Harvard ในเวลานั้นเค้าเพิ่งถูกแฟนทิ้ง Mark ก็เลยกินเหล้า กินเบียร์ เมาแหลก และก็เริ่ม เขียน Blog เพื่อให้ลืมสาวคนนั้น ขณะเดียวกัน Mark ก็เริ่มสร้าง "facebook" สำหรับหอพักของเค้า Mark บอกว่า รูปที่ถ่ายบางรูป น่าเกลียดมากจนเอาไปเปรียบเทียบกับพวกสัตว์ต่างๆได้เลย ฮะฮะ นี่คือจุดเริ่มต้นของ Facemash
Facemash กลายเป็น เวปที่นำรูปของนักศึกษามาจากหอพักทั้งหมดเก้าหอพักมาเก็บไว้ ... Mark เขียนโปรแกรม ให้สุ่มรูปขึ้นมาคู่กันสองรูปแล้วให้คนโหวตว่า ใครหล่อหรือสวยกว่ากัน
แต่ว่า Mark เอารูปทั้งหมดมาจากไหน เพราะเค้าไม่น่าจะเดินไปขอรูปมาจากนักศึกษาทั้งหมดแน่ๆ คำตอบก็คือ เค้า Hack เข้าคอมพิวเตอร์ของ Harvard แล้วก็ ก็อปรูปมาซะ ... สุดยอด แฮะ ...
Facemash เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง มีคนเข้ามา 450 คน และมีคนดูรูปไปทั้งหมด 22,000 รูป แต่...ไม่มีอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบหรอกนะ ... ไม่กี่วันต่อมา Harvard ปิดเวป Facemash แล้วก็แจ้งจับ Mark ข้อ หาละเมิดความเป็นส่วนตัว (Invasion of Privacy) และ Hack เข้าระบบคอมพิวเตอร์ ... Mark เกือบถูกไล่ออก แต่ ตอนหลังก็ถูกถอนข้อหานี้ไป
Thefacebook
เทอมต่อมา ปี 2004 Mark เริ่มสร้างเวปใหม่ขึ้นมา เรียกว่า Thefacebook เค้าได้รับแรงบันดาลใจจากบทความใน หนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวกับ กรณีของ Facemash บทความนั้นกล่าวว่า จริงๆแล้วเวปส่วนกลางลักษณะนี้น่าจะมีประโยชน์มากมาย
Thefacebook เริ่มใช้งานได้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004 Mark บอกว่า หลายๆคนพูดถึงการมี facebook (จุดรวมรูปของนักศึกษาและอาจารย์) ของ Harvard ... Mark พูดต่ออีกว่า มันเป็นอะไรที่ตลกมาก เพราะมหาวิทยาลัยต้องใช้เวลาเป็นปีๆกว่าจะทำเจ้าตัวนี้ขึ้นมา และตัวเค้าทำได้ดีกว่า แล้วก็ทำได้ในอาทิตย์เดียว
ภายในเวลาแค่ 24 ชั่วโมง Thefacebook มีคนลงทะเบียน 1,500 คน และ ภายในหนึ่งเดือน ครึ่งหนึ่งของนักศึกษาปริญญาตรีทั้งหมดลงทะเบียนกับเค้า
เดือนมีนาคมปีเดียวกัน Mark และกลุ่มเพื่อนๆ ก็ได้ขยาย Thefacebook ออกไปยัง มหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ (Ivy League) จากนั้น ก็ขยายไปทั่วอเมริกา และทั่วโลก
ในปี 2005 คำว่า The ก็ถูกถอนออกจาก ชื่อ Thefacebook ... Mark และเพื่อนได้จดทะเบียนชื่อโดเมน facebook.com ในราคา $200,000 ... แล้วก็มี Facebook ในวันนี้
สรุป
เรื่องราวความสำเร็จของ Facebook นั้น เป็นอะไรที่น่าติดตาม ถึงแม้ว่าอายุยังน้อยอยู่ แต่ Facebook ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และก็ประสบความสำเร็จ ... น่าสนใจมากที่จะคอยจับตาดูว่า Facebook จะเป็นอย่างไรในอนาคต
Facebook ก่อตั้งโดย Mark Zuckerberg พร้อมกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่ Harvard คือ Dustin Moskovitz, Eduardo Saverin, and Chris Hughes ความคิดที่จะทำ Facebook มาจาก เมื่อตอน Mark เรียนมัธยมอยู่ ซึ่ง ตอนนั้นที่โรงเรียนมีการถ่ายรูปนักเรียนและอาจารย์เก็บเอาไว้ เรียกว่า "facebook" (หรือหนังสือหน้า นั่นเอง)
Facemash
แต่ก่อนที่จะเป็น Facebook ในปัจจุบัน Mark สร้าง Facemash ขึ้นมาก่อน Facemash เกิดเมื่อปี 2003 ตอนนั้น Mark เรียนอยู่ปี 2 ที่ Harvard ในเวลานั้นเค้าเพิ่งถูกแฟนทิ้ง Mark ก็เลยกินเหล้า กินเบียร์ เมาแหลก และก็เริ่ม เขียน Blog เพื่อให้ลืมสาวคนนั้น ขณะเดียวกัน Mark ก็เริ่มสร้าง "facebook" สำหรับหอพักของเค้า Mark บอกว่า รูปที่ถ่ายบางรูป น่าเกลียดมากจนเอาไปเปรียบเทียบกับพวกสัตว์ต่างๆได้เลย ฮะฮะ นี่คือจุดเริ่มต้นของ Facemash
Facemash กลายเป็น เวปที่นำรูปของนักศึกษามาจากหอพักทั้งหมดเก้าหอพักมาเก็บไว้ ... Mark เขียนโปรแกรม ให้สุ่มรูปขึ้นมาคู่กันสองรูปแล้วให้คนโหวตว่า ใครหล่อหรือสวยกว่ากัน
แต่ว่า Mark เอารูปทั้งหมดมาจากไหน เพราะเค้าไม่น่าจะเดินไปขอรูปมาจากนักศึกษาทั้งหมดแน่ๆ คำตอบก็คือ เค้า Hack เข้าคอมพิวเตอร์ของ Harvard แล้วก็ ก็อปรูปมาซะ ... สุดยอด แฮะ ...
Facemash เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง มีคนเข้ามา 450 คน และมีคนดูรูปไปทั้งหมด 22,000 รูป แต่...ไม่มีอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบหรอกนะ ... ไม่กี่วันต่อมา Harvard ปิดเวป Facemash แล้วก็แจ้งจับ Mark ข้อ หาละเมิดความเป็นส่วนตัว (Invasion of Privacy) และ Hack เข้าระบบคอมพิวเตอร์ ... Mark เกือบถูกไล่ออก แต่ ตอนหลังก็ถูกถอนข้อหานี้ไป
Thefacebook
เทอมต่อมา ปี 2004 Mark เริ่มสร้างเวปใหม่ขึ้นมา เรียกว่า Thefacebook เค้าได้รับแรงบันดาลใจจากบทความใน หนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวกับ กรณีของ Facemash บทความนั้นกล่าวว่า จริงๆแล้วเวปส่วนกลางลักษณะนี้น่าจะมีประโยชน์มากมาย
Thefacebook เริ่มใช้งานได้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004 Mark บอกว่า หลายๆคนพูดถึงการมี facebook (จุดรวมรูปของนักศึกษาและอาจารย์) ของ Harvard ... Mark พูดต่ออีกว่า มันเป็นอะไรที่ตลกมาก เพราะมหาวิทยาลัยต้องใช้เวลาเป็นปีๆกว่าจะทำเจ้าตัวนี้ขึ้นมา และตัวเค้าทำได้ดีกว่า แล้วก็ทำได้ในอาทิตย์เดียว
ภายในเวลาแค่ 24 ชั่วโมง Thefacebook มีคนลงทะเบียน 1,500 คน และ ภายในหนึ่งเดือน ครึ่งหนึ่งของนักศึกษาปริญญาตรีทั้งหมดลงทะเบียนกับเค้า
เดือนมีนาคมปีเดียวกัน Mark และกลุ่มเพื่อนๆ ก็ได้ขยาย Thefacebook ออกไปยัง มหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ (Ivy League) จากนั้น ก็ขยายไปทั่วอเมริกา และทั่วโลก
ในปี 2005 คำว่า The ก็ถูกถอนออกจาก ชื่อ Thefacebook ... Mark และเพื่อนได้จดทะเบียนชื่อโดเมน facebook.com ในราคา $200,000 ... แล้วก็มี Facebook ในวันนี้
สรุป
เรื่องราวความสำเร็จของ Facebook นั้น เป็นอะไรที่น่าติดตาม ถึงแม้ว่าอายุยังน้อยอยู่ แต่ Facebook ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และก็ประสบความสำเร็จ ... น่าสนใจมากที่จะคอยจับตาดูว่า Facebook จะเป็นอย่างไรในอนาคต